จอร์เจีย – อาร์เมเนีย 10 วัน



จอร์เจีย – อาร์เมเนีย 10 วัน

รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-จอร์เจีย – อาร์เมเนีย 10 วัน

รหัสทัวร์ : Explore Caucasus 10Day (QR)
ระยะเวลา 10 วัน 7 คืน
สายการบิน :

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 16 พ.ย. 62 - 25 พ.ย. 62 79,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    ชมกรุง TIBILISI เมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศจอร์เจีย
  • 2
    ชมกรุง YEREVAN เมืองหลวงของประเทศอาร์เมเนีย
  • 3
    ชมโบสถ์ GERGETI TRINITY โบสถ์เก่าแก่บนเทือกเขาคอเคซัส
  • 4
    ชมอาราม HAGHPAT MONASTERY โบสถ์เก่าแก่ มรดกโลก (Unesco)
  • 5
    ชมวิหาร ECH-MIADZIN วิหารเก่าแก่ มรดกโลก (Unesco)
  • 6
    ชมวิหาร GEGHARD MONASTERY วิหารเก่าแก่ท่ามกลางเทือกเขา มรดกโลก (Unesco)
  • 7
    ชม GARNI GORGE ช่องเขาแท่งหินบะซอลล์
  • 8
    ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ชมป้อม NARIKALA FORTRESS ป้อมปราการแห่งเมืองทบิลิซี
  • 9
    ชมทะเลสาบ SEVAN หนึ่งในทะเลสาบสุดสวยเขตเทือกเขาคอเคซัส
  • 10
    ชมบ้านถ้ำ UPLISTSIKHE ชุมชนเก่าแก่ที่มนุษย์อาศัยอยู่ในถ้ำ

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์จอร์เจีย
ทัวร์อาเซอร์ไบจาน – จอร์เจีย – อาร์เมเนีย
Incredible Caucasus 12 วัน 9 คืน
โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ (QR)

DAY1

กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)

  • 22.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ (ผู้โดยสารขาออกชั้น 4) ประตูหมายเลข 8 แถว Q เคาน์เตอร์สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ พบเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้กับท่าน
DAY2

กรุงเทพฯ – โดฮา – ทบิลิซี - นครถ้ำวาร์ดเซีย - บอร์โจมี

  • 01.45 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศกาตาร์ โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR 837
  • 05.25 น. เดินทางถึงสนามบินโดฮา (เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน)
  • 07.15 น. ออกเดินทางสู่ เมืองทบิลิซี โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR 355
  • 11.30 น. เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติทบิลิซี

 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • นำท่านเดินทางสู่ นครถ้ำวาร์ดเซีย (Vardzia Cave Town) ตั้งอยู่ตอนใต้สุดของจอร์เจีย ห่างจากชายแดนตุรกีเพียง 13 กิโลเมตร
  • นำท่านชมหมู่ถ้ำโบราณในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11 แบ่งออกเป็นส่วนที่อยู่อาศัยและส่วนอารามสงฆ์ โดยถ้ำเหล่านี้ถูกขุดเจาะเป็นโพรงทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำ เพื่อหลบหลีกการคุกคามของกองทัพมองโกล ลดหลั่นกันลงไปถึง 19 ขั้น โดยในยุครุ่งเรือง มีถ้ำกว่า 3,000 คูหา และมีคนอาศัยอยู่ถึง 50,000 คน! นอกจากนั้น นครถ้ำแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ โบสถ์แม่พระแห่งพระบุตรเสด็จสู่สวรรคาลัย (The Church of Dormition) หนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ของจอร์เจียด้วย
  • นำท่านเดินทางสู่เมืองบอร์โจมี (Borjomi) เมืองตากอากาศเล็กๆทางในหุบเขาทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย มีประชากรอาศัยอยู่ไม่ถึง 15,000 คน แต่เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องน้ำแร่ โดยน้ำแร่ยี่ห้อบอร์โจมีได้มีการบรรจุ ณ ธารน้ำแร่บริสุทธิ์ที่ไหลรินจากยอดเขาบาคุเรียนี (Bakuriani Mountain)และส่งออกไปขายกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยในอดีตชาวเมืองเชื่อกันว่าจะทำให้มี สุขภาพแข็งแรงและสามารถรักษาโรคร้ายได้

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
BORJOMI LIKANI HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 – 5 ดาว 

DAY3

บอร์โจมี - สวนบอร์โจมี – อาคาลห์ซี – RABATI FORTRESS - กอรี – ป้อมอนานูริ - กูอาดูรี

 รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านเข้าชมสวนบอร์โจมี (BORJOMI CITY PARK) สถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนของชาวเมืองบอร์โจมีที่นิยมมาเดินเล่นและผ่อนคลายโดยการแช่น้ำแร่ในวันหยุด
  • นำท่านขึ้นกระเช้าสู่จุดชมวิวบนหน้าผาเหนือสวนบอร์โจมีอิสระให้ท่านเก็บภาพวิวทิวทัศน์ธรรมชาติจากมุมสูงตามอัธยาศัย
  • นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอาคาลห์ซี (Akhaltsikhe) หรือเดิมชื่อ Lomsia เป็นเมืองเล็กๆ ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจอร์เจีย ตั้งอยู่บนทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ Potskhovi ขนาดเล็กซึ่งแยกเมืองกับเมืองเก่าในภาคเหนือและใหม่ในภาคใต้
  • นำท่านเข้าชม  Rabati Fortress แนวป้อมปราการและปราสาทสุดอลังการ ภายในประกอบไปด้วยส่วนประกอบของอาคารหลายๆส่วน สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 13 ล้อมรอบไปด้วยอาณาเขตแนวกำแพงหินที่ใช้เป็นป้อมป้องกันข้าศึก และยังเคยใช้เป็นประทับของเจ้าชาย Jakhely ภายหลังศตวรรษที่ 16 ป้อมแห่งนี้ ก็ได้ตกอยู่ในความครอบครองของอาณาจักรออโตมันและรัสเซีย จึงทำให้ป้อมแห่งนี้ ถูกละเลยและอยู่ ในสภาพที่ทรุดโทรม จนเมื่อปี2012 ทางการจอร์เจียได้บูรณะป้อมแห่งนี้ ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองกอรี (Gori) เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ รู้จักกันดีว่าเป็นบ้านเกิดของโจเซฟ สตาลิน ผู้นำสุดโหดของสหภาพโซเวียต นายโจเซฟเป็นคนจอร์เจี้ยนโดยกำเนิด แต่ได้เป็นถึงเลขาธิการใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ ต่อมาได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำของสหภาพโซเวียตต่อจากวลาดีมีร์ เลนิน นำสหภาพโซเวียตเป็นมหาอำนาจของโลกได้ในที่สุด ในช่วงยุคกลางเมืองกอรีมีความสำคัญมากในเรื่องของการทหาร เพราะเป็นเมืองเชื่อมฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกไว้ด้วยกัน
  • นำท่านชม พิพิธภัณฑ์สตาลิน (Statlin Musuem) ซึ่งรวบรวมเรื่องราว และสิ่งของต่างๆ ของสตาลินเอาไว้ รวมไปถึงตัวอาคารที่สตาลินเกิดด้วย ภายในพิพิธภัณฑ์สตาลิน มีการจัดแสดงประวัติชีวิตของสตาลิน
  • นำท่านเดินทางสู่ ป้อมอนานูริ (Ananuri Fortress) ป้อมปราการเก่าแก่ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16-17 ชมความงดงามของโบสถ์สองหลังของคริสตจักรชาวเวอร์จิน จากมุมสูงของป้อมปราการนี้ มองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของ อ่างเก็บน้ำซินวาลี (Zhinvali) แหล่งเก็บน้ำของชาวเมืองทบิลิซี และวิวภูเขาที่ล้อมรอบสถานที่แห่งนี้ไว้อย่างงดงาม
  • นำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองกูดาอูรี (Gudauri) ซึ่งเป็นเมืองสำหรับสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขาของเทือกเขาคอเคซัส มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,100 เมตร สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งที่พักผ่อนเล่นสกีในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน ซึ่งจะมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดเวลา ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทิวทัศน์อันสวยงาม

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MARCO POLO HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY4

กูดาอูรี - คาซเบกี – นั่งรถ 4WD – โบสถ์เกอร์เกตี้ – มอสเคต้า – วิหารจวารี – วิหารสเวติสโคเวลี - ทบิลิซี

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านออกเดินทางสู่เมืองคาซเบกี (Kazbegi) ซึ่งเป็นชื่อเมืองอันดั้งเดิม แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อ สเตพ้านท์สมินด้า (Stepantsminda) หลังจากนักบุญในนิกายออร์โธดอก ชื่อ สเตฟานได้มาพำนักอาศัยและก่อสร้างสถานที่สำหรับจำศีลภาวนาขึ้นมา เมืองคาซเบกี เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำเทอร์กี้ที่มีความยาวประมาณ 157 กม. และตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,740 เมตร ในฤดูร้อนจะมีอุณหภูมิที่อยู่ปานกลางมีความชื้นและแห้งแล้งที่ประมาณ 14.5 องศาเซลเซียส ในฤดูหนาวมีอากาศเย็นและยาวนาน มีอุณหภูมิที่ประมาณ -5 องศาฯ  ในเดือนมกราคมซึ่งเป็นเดือนที่หนาวเย็นที่สุด
  • จากนั้นนำท่านขึ้นรถ 4WD (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ) เพื่อเข้าสู่ใจกลาง หุบเขาคอเคซัส (Caucasus)
  • นำท่านเข้าชมความสวยงามของโบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Trinity Church) ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 14 หรือมีชื่อเรียกกันว่าทสมินดา ซามีบา (Tsminda Sameba) ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกที่นิยมกันของโบสถ์ศักดิ์แห่งนี้สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้ำชคเฮรี ที่อยู่บนเทือกเขาของคาซเบกี ( หมายเหตุ : การเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ ซึ่งอาจจะถูกปิดกั้นได้ด้วยหิมะที่ปกคลุมอยู่ และการเดินทางอาจจะมีปัญหาได้ แต่จะคำนึงถึงผลประโยชน์และความปลอดภัยของผู้เดินทางให้มากที่สุด)
  • นำท่านชม อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย (Memorial of Friendship) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Russia-Georgia Friendship Monument เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 1983 เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความสัมพันธ์อันดีของประเทศจอร์เจียและประเทศรัสเซีย โครงสร้างทั้งหมดทำมาจากหินและคอนกรีต ภายในมีการวาดภาพประวัติศาสตร์ของประเทศจอร์เจียและประเทศรัสเซียไว้อย่างสวยงาม ให้ท่านได้อิสระถ่ายรูปบรรยากาศและทิวทัศน์อันสวยงาม
  • นำท่านออกเดินทางไปยังเมือง มอสเคต้า (Mtskheta) ที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือ ในจังหวัดคาร์ทลี่ทางด้านตะวันออกของจอร์เจีย เมืองนี้นับว่าเป็นเมืองที่มีความเก่าแห่งหนึ่งของประเทศ และในปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการปกครองของแคว้นมอสเคต้าและเทียนิตี้  มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 คน เนื่องจากมีโบราณสถานทางด้านประวัติศาสตร์มากมายหลายแห่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1994

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านไปชม วิหารจวารี (Jvari Monastery) ซึ่งเป็นวิหารในรูปแบบของคริสต์ศาสนาออร์โธ ด๊อกซ์ ที่ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 6 วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีแม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ามิควารี และแม่น้ำอรักวีและถ้ามองออกไปข้ามเมืองมิทสเคต้าไปยังบริเวณที่กว้างใหญ่ซึ่งในอดีตเคยเป็นอาณาจักรของไอบีเรีย (Kingdom of Iberia) ซึ่งได้เคยปกครองดินแดนในบริเวณนี้ตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาลจนถึงราวคริสต์ศตวรรษที่ 5
  • นำท่านไปชม วิหารสเวติสโคเวลี (Sveti Tskhoveli Cathedral) ซึ่งเป็นโบสถ์อีกแห่งหนึ่งที่อยู่ในบริเวณของมอสเคต้า ที่มีรูปแบบของจอร์เจียออร์โธดอกถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 11 จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
  • นำท่านเดินทางสู่กรุงทบิลิซี (Tibilisi) เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคูรา (Kura) หรือ แม่น้ำมตควารี (Mtkvari) เมืองนี้ถูกสร้างโดยวาคตัง จอร์กาซาลี (Vakhtang Gorgasali) กษัตริย์จอร์เจียแห่งคาร์สตีล (ไอบีเรีย) ได้ก่อตั้งเมืองนี้ขึ้นใน  คริสต์ศตวรรษที่ 4 นอกจากนั้นเมืองทบิลิซี ยังเป็นศูนย์กลางการทำอุตสาหกรรม สังคมและวัฒนธรรมในภูมิภาคคอเคซัส ในประวัติศาสตร์เมืองนี้อยู่ในสายทางหนึ่งของเส้นทางสายไหม ปัจจุบันยังมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางการขนส่งและการค้า เนื่องจากความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในแง่ที่ตั้ง ที่เป็นจุดตัดระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปยุโรป

 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย

RADISSON BLU LVERIA HOTEL TBILISI หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว

DAY5

ทบิลิซี –โบสถ์เมเตห์คี - นั่งกระเช้าไฟฟ้า – ป้อมนาริคาล่า - โรงอาบน้ำโบราณ - วิหารซีโอนี

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านชมโบสถ์เมเตห์คี (Metekhi Church) เป็นโบสถ์ที่มีประวัติศาสตร์อยู่คู่บ้านคู่เมืองของทบิลิซี ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาของแม่น้ำมทวารี เป็นโบสถ์หนึ่งที่สร้างอยู่ในบริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นประเพณีโบราณที่มีมาแต่ก่อน กษัตริย์วาคตัง ที่ 1 แห่งจอร์กาซาลี ได้สร้างป้อมและโบสถ์ไว้ที่บริเวณนี้ต่อมาในปี ค.ศ. 1278-1284 ได้มีการสร้างขยายโดยกษัตริย์ เซ้นต์ เดมิท รีอัส ที่ 2 ให้มีโดมสูงเป็นสัญลักษณ์ของโบสถ์ในนิกายออร์โธด๊อก ต่อมาได้ถูกทำลาย และได้มีการก่อสร้างขึ้นอีกหลายครั้ง จนในปีค.ศ.1235 ได้ถูกพวกมองโกลบุกทำลายและก็ได้สร้างขึ้นใหม่อีก
  • นำท่านขึ้นกระเช้าไฟฟ้าสู่ป้อมนาริคาล่า (Narikala Fortress) ให้ท่านชมป้อมปราการ ซึ่งเป็นป้อมโบราณที่ถูกสร้างในราวศตวรรษที่ 4 ในรูปแบบของชูริส ทซิเค อันหมายถึง รูปแบบที่ไม่มีความสม่ำเสมอกัน และต่อมาในราวศตวรรษที่ 7 สมัยของราชวงศ์อูมัยยาดได้มีการก่อสร้างต่อขยายออกไปอีก และต่อมาในสมัยของกษัตริย์เดวิด (ปี ค.ศ.1089-1125)ได้มีการสร้างเพิ่มเติมขึ้นอีก ซึ่งต่อมาเมื่อพวกมองโกลได้เข้ามายึดครอง ก็ได้เรียกชื่อป้อมแห่งนี้ว่า นาริน กาลา(Narin Qala) ซึ่งมีความหมายถึง ป้อมอันเล็ก(Little Fortress) ต่อมาบางส่วนก็ได้พังทลายลงเพราะว่าเกิดแผ่นดินไหวและได้ถูกรื้อทำลายไป

รับประทานอาหารกลางวัน ณ  ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชม โรงอาบน้ำโบราณ หรือ อะบานู อุบานิ (Abanotubani) เป็นสถานที่สาหรับแช่น้ำพุร้อนที่มีแร่ถามะถัน ตามตานานเล่าขานว่าในสมยัพระเจ้าวัคตังที่ 1 กอร์กัซลี่นกเหยี่ยวของพระองค์ได้ตกลงไปในบริเวณดังกล่าว จึงทำให้ค้นพบบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ขึ้น ลักษณะคล้ายโรงอาบน้ำเหมือนกับการออนเซนของชาวญี่ปุ่นผสมรวมกับการอาบน้ำแบบตุรกี
  • นำท่านถ่ายรูป วิหารซีโอนี (Sioni Cathedral) ซึ่งเป็นโบสถ์หลังใหญ่ของนิกายออร์โธดอกที่ถูกสร้างขึ้นในเมืองนี้ ชื่อของโบสถ์ได้นำมาจากดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ คือ ภูเขาไซออนในเยรูซาเล็ม สถานที่แห่งนี้ก็ได้มี่ชื่อเป็น ซิโอนีแห่งทบิลิซี (Tbilisi Sioni) ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 6 -7 และต่อมาก็ได้ถูกทำลายลงโดยผู้ที่บุกรุกแต่ก็ได้มีการสร้างขึ้นใหม่หลายครั้งด้วยกัน จนกระทั่งเป็นโบสถ์ที่ได้เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้และได้มีการเปลี่ยนแปลงบ้างในราวศตวรรษที่ 17 ถึงศตวรรษที่ 19
  • นำท่านถ่ายรูปกับ สะพานสันติภาพ (The Bridge of Peace) เป็นสะพานที่มีความยาวถึง 150 เมตร และเป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำคูราเพื่อเชื่อมระหว่างตัวเมืองเก่าและตัวเมืองใหม่ทบิลิซี โครงสร้างหลักของสะพานแห่งนี้ทำมาจากเหล็กและกระจกใส มีการเปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2010 และจัดว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่มีความสวยงามชิ้นหนึ่งของประเทศจอร์เจีย

 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพร้อมชมโชว์พื้นเมือง

RADISSON BLU LVERIA HOTEL TBILISI หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว

DAY6

ทบิลิซี – ซาดาโคล –ข้ามพรมแดนอาร์เมเนีย - ดีลิจาน

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านออกเดินทางไปยังเมืองซาดาโคล (Sadakhlo) ที่อยู่ทางด้านใต้ ซึ่งเป็นเมืองพรมแดนที่อยู่ติดกับอาร์เมเนีย และยังตั้งอยู่ใกล้กับอาเซอร์ไบจานอีกด้วย จึงทำให้เป็นเมืองที่มี 3 บรรยากาศ คือ ความเป็นจอร์เจีย เป็นอาร์เมเนียและเป็นทั้งอาเซอร์ไบจาน ตลอดเส้นทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์และธรรมชาติอันสวยของเทือกเขาคอเคซัสน้อยที่อยู่ระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน
  • นำท่านผ่านด่านเมืองซาดาโคล และข้ามพรมแดนโดยมีเมืองบากราทาเชน (Bagratashen)ที่เป็นเมืองชายแดนของอาร์เมเนียที่อยู่ติดกับจอร์เจีย
  • เดินทางสู่เมืองฮักห์พาท (Haghpat) เป็นเมืองในหมู่บ้านของจังหวัดลอรี่ ที่อยู่ทางด้านเหนือของอาร์เมเนีย เมืองนี้เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเพราะเป็นที่ตั้งของวัดอารามโบราณ

รับประทานอาหารกลางวัน ณ  ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชมความสวยงามของวัดอารามโบราณฮักห์พาท(Haghpat Monastery) ซึ่งถือได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของทางด้านศาสนาและทางด้านสถาปัตยกรรมในการก่อสร้างในยุคกลาง อารามแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นโดยนักบุญนิชาน (Saint Nishan) ในราวศตวรรษที่ 10 ซึ่งอยู่ในระการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์อะบาส ที่ 1 (King Abas I) และนอกจากนั้นก็ยังมีแห่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นใกล้ๆ กัน คือ อารามซานาฮิน (Sanahin Monastery) และสถานที่ทั้งสองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลกในปีค.ศ.1996 ชมตัวโบสถ์เล็กๆ ของนักบุญนิชานได้ถูกสร้างในราวปีค.ศ.966-67 ต่อมาก็ได้ถูกสร้างขยายให้ใหญ่โตขึ้นและมีการตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ตัวโบสถ์ใหญ่ในส่วนนี้ คือ วิหารของนักบุญนิชานถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.967-991 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมในยุคของศตวรรษที่ 10 ของแบบอาร์เมเนียน
  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองดีลิจาน (DILIJAN) ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดทาวุสที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของทะเลสาบฯ เป็นเมืองหนึ่งที่มีความสำคัญทางด้านการท่องเที่ยวซึ่งจะมีรีสอร์ทที่พักหลายแห่ง และมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 16,000 คนเมืองนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอักสเทฟ ที่มีความยาวประมาณ 20 กม. เมตร ที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,500 เมตร บรรยากาศของเมืองจะเป็นธรรมชาติที่สดชื่น และหนาแน่นเต็มไปด้วยป่าเขาที่เขียวชอุ่ม สถานที่แห่งนี้จึงได้ชื่อว่า สวิตเซอร์แลนด์น้อยแห่งอาร์เมเนีย “Little Switzerland of Armenia”

 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง 

 BEST WESTERN HOTEL DILIJAN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

** โรงแรมในเมืองดีลิจาน มีจำกัด ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง หากโรงแรมที่พักในเมืองดิลีจานเต็ม**

DAY7

ดีลิจาน – เซวาน – เยเรวาน – คอร์วิราพ – วิหารคอร์วิราพ – เยเรวาน

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านออกเดินทางต่อไปยังเมืองเซวาน (SEVAN) ตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบเซวาน (Lake Sevan) ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดและทะเลปิดในประเทศอาร์เมเนียและเทือกเขาคอเคซัสน้อย ทะเลสาบนี้เป็นหนึ่งในทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทะเลสาบเซวานล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำฮราซดาน และแม่น้ำมาซริค
  • นำท่านชมความสวยงามของตัวเมืองและทะเลสาบเซวานที่เต็มไปด้วยสถานที่พักผ่อนรีสอร์ทของนักท่องเที่ยว ตัวเมืองนี้ตั้งอยู่สูงกว่ากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,900 เมตร เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1842 ซึ่งเป็นหมู่บ้านพักอาศัยของชาวรัสเซียที่มีชื่อว่า เยเลนอฟก้า (Yelenovka) จนถึงปีค.ศ.1935 จึงได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น เซวาน ตามชื่อของทะเลสาบ และเมืองนี้ยังถูกล้อมรอบไปด้วยสวนสาธารณะเซวาน ซึ่งได้ถูกสร้างต่อมาจากทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง
  • นำท่านไปชม อารามเซวาน (Sevan Monastery) หรือมีชื่อเรียกว่า เซวานาแว๊งค์ (Sevanavank) ซึ่งคำว่า แว๊งค์ เป็นภาษาอาร์เมเนีย มีความหมายว่า โบสถ์วิหาร สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณแหลมที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของฝั่งทะเลสาบเซวานถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.874 โดยเจ้าหญิงมาเรียม ซึ่งเป็นธิดาของกษัตริย์อะช๊อตที่ 1 ซึ่งอยู่ในช่วงของการต่อสู้กับพวกอาหรับที่ปกครองดินแดนแห่งนี้
  • นำท่านเดินทางสู่ กรุงเยเรวาน (YEREVAN) บางครั้งก็เรียกว่า เอเรวาน (Erevan) ซึ่งชื่อเดิมคือ เอเรบูนี (Erebuni) และ เอรีวาน (Erivan) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอาร์เมเนีย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮราซดาน (Hrazdan River) กรุงเยเรวานเป็นศูนย์กลางการบริหารวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมของประเทศ กรุงเยเรวานเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยบัณฑิตยสถานอาร์เมเนีย รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ โรงอุปรากร ห้องแสดงดนตรี สถาบันเทคโนโลยี ห้องสมุดสาธารณะขนาดใหญ่ สวนพฤกษศาสตร์ และสวนสัตว์อีกหลายแห่ง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • นำท่านออกเดินทางไปยังเมืองคอร์วิราพ (Khor Virap)ตั้งอยู่ในจังหวัดอะรารัต คอร์ วิราพ เป็นเมืองที่มีความสำคัญและมีชื่อเสียงของชาวอาร์เมเนีย ผู้ที่อาศัยอยู่ตามส่วนต่างๆ ทั่วโลกที่จะต้องเดินทางมาทำพิธีจาริกแสวงบุญที่แห่งนี้ เพราะตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้มีการบันทึกเหตุการณ์ในยุคโบราณว่า กษัตริย์ทิริเดท ของพากันอาร์เมเนียนได้จับนักบุญเกกอรี่ ขังคุกไว้ในถ้ำ ผู้ซึ่งได้ทำการเผยแผ่และให้ความกระจ่างในเรื่องของศาสนาฯ และยังเป็นพระสังฆราชองค์แรกของชาวอาร์เมเนีย และต่อมาสถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักกันก็ คือ คอร์ วิราพ
  • นำท่านชมวิหารคอร์วิราพ (Khor Virap Monastery) เป็นสถานที่มีชื่อเสียงที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานสำหรับพิธีจาริกแสวงบุญให้กับผู้มีชื่อเสียง คือ ท่านกรีกอร์ ลูซาวอริช (Grigor Lusavorich) ผู้ซึ่งกลายมาเป็นนักบุญเกกอรี่ที่ เป็นผู้เผยแผ่ทางด้านศาสนาฯ และต่อมาได้ถูกจองจำอยู่ในคุกนี้ถึง 13 ปีโดยคำสั่งของกษัตริย์ทิริเดท ที่ 3 แห่งอาร์เมเนีย ภายหลังท่านได้รับการยอมรับนับถือและแต่งตั้งให้เป็นพระสังฆราชองค์แรก และได้ทำการเปลี่ยนแปลงสั่งสอนด้านการศาสนาภายในประเทศ และในปี ค.ศ.301 อาร์เมเนียเป็นประเทศแรกของโลกที่ได้ประกาศและยอมรับเอาศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติจาก สถานที่แห่งนี้ท่านจะสามารถมองเห็นภาพของภูเขาอะรารัทได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งภูเขาแห่งนี่เป็นตำนานที่พบว่า เป็นที่จอดของเรือโนอาห์ในสมัยที่น้ำท่วมโลกเมื่อ 7,000 ปีมาแล้ว
  • นำท่านเดินทางกลับสู่กรุงเยเรวาน

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

 DOUBLE TREE BY HILTON YEREVAN   หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว  (พัก 2 คืน)

DAY8

เยเรวาน – วิหารการ์นี – วิหารเก๊กฮาร์ด - เยเรวาน

 รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก                    

  • นำท่านไปชม วิหารการ์นี (Garni Temple) ซึ่งในอดีตเมื่อประมาณ 1,700 ปีมาแล้ว บริเวณนี้เคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์อาร์เมเนีย ซึ่งในปัจจุบันยังคงมีหลงเหลืออยู่ ซากห้องสรงน้ำ (Royal Bath House) และอาคารทรงกรีกที่ถูกสร้างขึ้นช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1 โดย กษัตริย์อาร์เมเนียในสมัยนั้น ด้านข้างของวิหารทรงกรีกก็มีซากตอโบสถ์คริสต์ที่สร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 9 หลงเหลืออยู่ ต่อมาวิหารแห่งนี้ถูกทำลายด้วยแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 1679 สำหรับอาคารที่เห็นอยู่นี้ เพิ่งมาประกอบใหม่ในสมัยสหภาพโซเวียต เมื่อปี ค.ศ.1974 นี้เอง โดยใช้เศษซากปรักหักพังของเก่าผสมกับของใหม่ จึงทำให้สมบูรณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าวิหารการ์นี จะถูกสร้างแบบกรีก แต่ลวดลายบนตัวอาคารก็สร้างด้วยศิลปะแบบอาร์เมเนีย ที่ไม่สามารถหาได้ในวิหารกรีกทั่วไป
  • นำท่านไปชมความสวยงามของจอร์จการ์นี่ (Garni Gorge) ซึ่งเป็นช่องเขาและมีลำธารน้ำไหลที่อยู่ในหมู่บ้านการ์นี่รวมถึงแม่น้ำอาซัดที่ไหลผ่าน และตามทางเดินของช่องเขาและเป็นเนินหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผาจะมีแท่งหินที่เกิดจากธรรมชาติเป็นจำนวนมาก จากธรรมชาติที่เกิดขึ้นจะสอดคล้องกับลักษณะภูมิประเทศอันสวยงาม จึงทำให้ธรรมชาติที่เกิดขึ้นของส่วนนี้มีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยวมาก

 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

  • นำท่านไปชม วิหารเก๊กฮาร์ด (Geghard Monastery) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความสวยงามของอาร์เมเนีย เพราะเป็นวิหารที่สร้างอยู่ท่ามกลางเทือกเขาที่สวยงาม และยังมีส่วนที่สร้างโดยการตัดหินเข้าไปในภูเขาอีกด้วย ตัวอาคารของวิหารเกกฮาร์ดนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12-13  ให้ท่านชมส่วนของห้องโถงของตัวโบสถ์ที่มีการตัดหินสร้างเป็นโดมแกะสลักอย่างสวยงาม ที่ถูกตกแต่งด้วยความศรัทธาในศาสนาคริสต์อย่างเต็มเปี่ยม วิหารที่สร้างโดยการตัดหินให้กลายเป็นห้องโถง และได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปีค.ศ. 2000
  • นำท่านเดินทางกลับสู่กรุงเยเรวาน

 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

 DOUBLE TREE BY HILTON YEREVAN   หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว  (พัก 2 คืน)

DAY9

เยเรวาน – ชมเมือง - ช้อปปิ้ง

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านไปชม เดอะคาสเคด (The Cascade) เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของเยเรวาน ซึ่งลักษณะจะเป็นแบบขั้นบันไดลดหลั่นกันลงมามีความสูงประมาณ 500 เมตร และมีการปล่อยน้ำลงมาเพื่อให้เป็นน้ำตกลงเป็นสายจากใจกลางที่อยู่ด้านบน ซึ่งสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างนี้ถูกสร้างให้เป็นอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะของโซเวียตรัสเซีย ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกออกแบบสร้างโดยสถาปนิก จิม โทรอสยาน เมือปีค.ศ.1971-1980 เพื่อเป็นการระลึกถึงที่อยู่ภายใต้การปกครองของโซเวียตเมื่อ 50 ปี แต่ว่าการก่อสร้างยังไม่เรียบร้อย เพราะว่าได้หมดของโซเวียตไปเสียก่อน และต่อมาในปีค.ศ.2002 ก็ได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จเรียบร้อยเมื่อปีค.ศ.2009 และเมื่อมองจากจุดบนสุดทำให้เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของกรุงเยเรวานและภูเขาอารารัตที่อยู่ห่างไกลออกไปทางด้านตะวันตก
  • นำท่านไปชม จัตุรัสกลาง (Republic Square) เป็นสถานที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับศูนย์กลางของเมือง ซึ่งคนพื้นเมืองจะเรียกที่นี่ว่าเป็น สิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ ถูกสร้างขึ้นด้วยหินสีชมพูของอาร์เมเนียภายในเวลาหนึ่งปี ได้กลายเป็นเขตที่ได้มีการพัฒนามากที่สุดของเมืองเยเรวาน

 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

  • นำท่านช้อปปิ้ง ณ ตลาดบาซาร์ พาค ชูดา (Park Shuka) ตลาดช้อปปิ้งที่มีการตกแต่งอันสวยงามแบบสไตล์อาร์เมเนียน ให้ท่านได้พักผ่อนหรือช้อปปิ้งส่งท้ายตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • 23.30 น.นำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองเยเรวาน
DAY10

เยเรวาน - โดฮา - กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)

  • 02.45 น. ออกเดินทางสู่ โดฮา โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบิน QR 286
  • 04.40 น. เดินทางถึงสนามบินโดฮา (เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน)
  • 07.15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR 832
  • 17.45 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ พร้อมกับความประทับใจ


แชร์ให้เพื่อน